โขน ความหมาย คือการแสดงท่ารำเต้นออกท่าเข้ากับดนตรี โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงมีลักษณะเด่นคือ สวมศีรษะจำลองครอบหน้าเรียกว่าหัวโขน ดำเนินเรื่องโดยการพากย์และเจรจา ลักษณะการแต่งกายแต่งแบบยืนเครื่องและตามลักษณะของ
ละคร ตัวละครในการแสดงโขนได้แก่ ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ ตัวลิง และตัวละครที่เป็นสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น กวาง นก ยุงม้า ช้าง ฯลฯ
กำเนิดโขน โขนมาจากการนำศิลปะการแสดง 3 แบบ มาผสมผสานกันได้แก่
1. การแสดงชักนาคดึกดำบรรพ์ ในพิธีอินทราภิเษก ได้แก่ การแสดงที่แบ่งผู้แสดงออกเป็นฝ่ายอสูรกับฝ่ายเทวดาต่อสู้กันและผลสุดท้ายฝ่ายอสูรก็พ่ายแพ้ โขนได้นำวิธีการแต่งกายมาใช้ในการแสดงโดยแยกออกเป็นฝ่ายเทวดาและฝ่ายยักษ์หรืออสูร
2. โขนมาจากการแสดงหนังใหญ่ หนังใหญ่เป็นศิลปะแห่งการพากย์-เจรจา รวมทั้งท่าเต้นของคนเชิดหนัง โขนได้นำวิธีการพากย์-เจรจา การบรรเลงเพลงปี่พาทย์ ตลอดจนท่าเต้นของผู้เชิดหนัง มาใช้ในการแสดง
3.โขน มาจากศิลปะการต่อสู้กระบี่กระบอง โดยนำเอาศิลปะการต่อสู้มาเป็นแบบอย่างในการแสดงโขน
ประเภทของโขน
โขนแบ่งออกเป็น 5 ประเภทคือ โขนกลางแปลง โขนนั่งราวหรือโขนโรงนอก โขนโรงใน โขนหน้าจอและโขนฉาก
1. โขนกลางแปลง คือการแสดงโขนบนพื้นสนาม ไม่มีเวทีเหมาะกับการแสดงที่ใช้บริเวณกว้างๆใช้ธรรมชาติเป็นฉาก บรรยายเรื่องด้วยการพากย์-เจรจา ไม่มีขับร้อง ดนตรีใช้วงปี่พาทย์ซึ่งประกอบด้วย ปี่ ระนาดเอก ฆ้องววง ตะโพน กลองทัด ฉิ่ง การแสดงโขนกลางแปลงใช้ดนตรี 2 วง อยู่ทางซ้ายและขวาของสนาม ผลัดกันบรรเลง เรื่องที่แสดงคือเรื่อง รามเกียรติ์นิยมนำตอนยกทัพจับศึกมาแสดง
2. โขนนั่งราวหรือโขนโรงนอก คือการยกโขนกลางแปลงมาใช้ในเวทีที่มีอาณาบริเวณจำกัด มีราวพาดให้ตัวละครนั่งแทนเตียง มีฉากประกอบ มีร้านเล็กๆยกพื้นขึ้นสูงกว่าเวทีอยู่ข้างซ้ายและขวาของเวทีสำหรับตั้งวงปี่พาทย์ 2 วง การแสดงใช้บทพากย์และเจรจาเหมือนเดิม บางครั้งเล่นเพิ่มเติมโดยแสดงเกริ่นไว้ แล้วนอนค้างที่โรงโขน 1 คืน วันรุ่งขึ้นจึงแสดง เรียกกันว่าโขนนอนโรง
3. โขนโรงใน ปรับปรุงตามอย่างละครใน มีวิธีการเล่น บทพากย์-เจรจา การแต่งกาย ศิลปการร่ายรำประณีตงดงาม เพิ่มเพลงร้องไพเราะ มีระบำรำฟ้อนแบบละครในแทรกไว้ด้วย มีเตียงให้ผู้แสดงนั่งแทนราว ใช้วงปี่พาทย์บรรเลงประกอบ 2 วงตั้งอยู่ด้านซ้ายและขวาของเวที และยกพื้นของเวทีสำหรับบรรเลงดนตรีให้ได้ระดับกับเวทีแสดง
4. โขนหน้าจอ คือการแสดงที่เปลี่ยนลักษณะโรงแสดงโขนไปเป็นโรงแสดงหนังใหญ่ ลดวงปี่พาทย์บรรเลงลงเหลือเพียงวงเดียวและตั้งอยู่หน้าโรง หันไปทางผู้แสดงเพื่อสะดวกในการบอกหน้าพาทย์ หรือบอกปี่พาทย์ให้บรรเลงรับอย่างหนังใหญ่
5. โขนฉาก คือการแสดงโขนที่สร้างฉากประกอบเนื้อเรื่อง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 คล้ายกับละครดึกดำบรรพ์ ผู้ริเริ่มคือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ วิธีแสดง แบ่งฉากเล่นเหมือนละครดึกดำบรรพ์ สร้งฉากวิจิตรงดงามตระการตา แต่วิธีแสดงเป็นแบบโขนโรงใน มีบทร้อง มีกระบวนท่าเต้น มีการบรรเลงหน้าพาทย์ตามแบบละครใน
ลักษณะคำประพันธ์ในการแสดงโขน ใช้กลอนแปดหรือกลอนบทละคร ร่ายยาว คำพากย์ใช้กาพย์ยานี และกาพย์ฉบัง16 เล่นเรื่องรามเกียรติ์ นิยมบทพระราชนิพันธ์ในรัชกาลที่2 เพราะเหมาะกับการแสดงโขนที่สุด
ชนิดของบทพากย์โขนแบ่งออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่
1.พากย์เมืองหรือพากย์พลับพลา
2.พากย์รถ
3.พากย์ชมดง
4.พากย์โอ้
5.พากย์บรรยายหรือรำพัน
6.พากย์เบ็ดเตล็ด ใช้ในโอกาสทั่วๆไป อันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่เข้าประเภทใด
โอกาสที่แสดงโขน โขนแสดงได้หลายโอกาสดังนี้
1. แสดงในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและงานหลวง
2. แสดงในงานมงคลสมโภช
3. แสดงในงานศพเพื่อเป็นมหรสพบูชา
4. แสดงเพื่อความบันเทิงของพระมหากษัตริย์และบำรุงศิลปะ
5. แสดงเพื่อต้อนรับพระราชอาคันตุกะหรือแขกบ้านแขกเมือง
6. สืบสานมรดกของชาติและเพื่อความรื่นเริงบันเทิงใจ
เรื่องที่ใช้แสดงโขน คือเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเรื่องรามยณะของอินเดีย นิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์ในบทพระราชนิพนธ์ ของรัชกาลที่2 เพราะกระชับรวดเร็วไม่เยิ่นเย้อ
![]() |
โขน พระรามรบกับทศกัณฐ์ |
โขน เรื่อง รามเกียรติ์ |
![]() |
การแต่งกายยืนเครื่อง ตัวพระ ตัวนาง |
ชอบชุดแต่งกายของตัวโขน และท่าทางการแสดง
ตอบลบด.ญ.เสาวลักษม์ พัฒน์แก้ว เลขที่ 46 ม.2/8